วันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2555

นิยาย แรงเงา ตอนที่ 11


ตอนที่ 11
สร้อยคำทำอาหารมาเยี่ยมนพนภาที่กลุ้มเรื่องคลิปหลุดจนกิน ไม่ได้นอนไม่หลับ นพนภาบ่นว่าช่วงนี้มีแต่เรื่อง ทั้งผัวและลูกรุมกระหน่ำจนเธออ่อนใจ สร้อยคำปลอบให้ทำใจ แต่นพนภายังทำใจไม่ได้โดยเฉพาะเรื่องมุตตา หลุดปากเล่าเรื่องที่ส่งคนไปทำร้ายหญิงสาว

“อะไรนะ...คุณนภา ใครส่งใครไป...เราต้องปล่อยวางบ้าง ไอ้เรื่องจองเวรจองกรรม ทำกันไปทำกันมา แล้วเมื่อไหร่เรื่องมันจะจบ”

“หนูไม่ใช่คนผิดนี่คะ คนผิดคือไอ้ผัวบ้ากามกับอีเด็กร่านต่างหาก”

นพนภาไม่ยอมรับความจริง สร้อยคำคร้านจะพูดด้วย...ทันใดนั้นเอง ต้อมกำเงินปึกใหญ่วิ่งเข้ามา ต้องตามมา กระโจนดึงผมจนต้อมร้องกรี๊ด นพนภากับสร้อยคำรีบห้าม ต้องหน้าซีด มองแม่อย่างหวาดๆ ต้อมฟ้องแม่ฉอดๆ ว่าเห็นพี่สาวขโมยเงิน นพนภาปรี๊ดแตก ตะโกนด่าลูกเสียๆหายๆ

“อีลูกโจร สันดานขี้ขโมยเหมือนพ่อ พ่อแกขโมยไปให้อีมุตตา แล้วแกล่ะขโมยไปให้เพื่อนหรือผัว”

“บางทีก็เพื่อน บางทีก็ผัว”

ต้อง หน้าเสียแต่ไม่สลด สร้อยคำปรามหลาน นพนภาเลือดขึ้นหน้า ความโกรธพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างสุดระงับ ถลาเข้าตบตีไม่ยั้ง ต้องยืนนิ่งให้แม่ตบจนเลือดซึมจากปากแต่ยังเชิดหน้า มองแม่อย่างไม่กลัว

“อีลูกชั่ว ฉันว่าแล้ว...เลือดพ่อมันแรง บาปกรรมฉันก็ไม่เคยทำ แต่ทำไมบ้านนี้มีแต่เรื่องเลวๆ”

“เพราะบ้านนี้มีแต่คนบาปมั้งคะ มีนางฟ้าแสนดีอยู่คนเดียว บุญมันเลยไม่คุ้ม!”

นพนภาร้องกรี๊ด อาละวาดตบตีลูกอีกจนตัวเองหน้ามืดจะเป็นลม สร้อยคำเข้าประคอง ต้องผลุนผลันออกไป แต้ววิ่งตามแต่ไม่ทัน ต้องหนีไปแล้ว สร้อยคำพยายามโทร.หาแต่หลานสาวไม่ยอมรับสาย
ต้องโกรธและน้อยใจแม่มาก เตลิดไปหาแจ็คที่คอนโดฯ ขอยาเสพแก้เครียด แจ็คให้ง่ายๆ แต่แววตามีเลศนัย

หลังเมายาจนหลับไปในห้อง ต้องตื่นมาด้วยอาการกระสับกระส่าย เจอแจ็คกับเพื่อนสังสรรค์ที่ห้องนั่งเล่น เมาทั้งเหล้าและยา มองเธอด้วยสายตาหื่น ต้องเห็นท่าไม่ดีรีบขอตัว พวกแจ็คเข้ามาขวางและเริ่มลวนลาม ต้องตกใจร้องกรี๊ด หยิบขวดเหล้ามาตีหัวพวกแจ็คและวิ่งหนี แจ็คกับเพื่อนไล่ตามจนถึงสุดทางเดิน ต้องตัดสินใจปีนข้ามระเบียง กระโดดลงไปที่สนามหลังตึกจนข้อเท้าพลิก

ขณะเดียวกันนั้น ประพงส์มาทำธุระในละแวกคอนโดฯแจ็ค เห็นต้องโดนทำร้ายจึงเข้าไปช่วย เด็กสาวมองมาเฟียหนุ่มด้วยความประทับใจ ประพงส์สั่งลูกน้องให้จัดการพวกแจ็คและรีบพาต้องไปโรงพยาบาล

นพนภาไป โรงพยาบาลทันทีที่ทราบเรื่องจากประพงส์ วีกิจกับสร้อยคำตามไปด้วย เจนภพกระหืดกระหอบตามมาหลังจากนั้น นพนภามองด้วยความหมั่นไส้ ค่อนแคะผัวว่ามาช้าเพราะมัวอยู่กับเมียน้อย เจนภพถามอาการต้อง นพนภาโมโหจัดปาเศษเสื้อผ้าต้องใส่หน้าประชดผัว เจนภพโกรธเมียและแค้นแจ็คที่ทำร้ายลูกสาว กำเศษผ้าในมือแน่น จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ประพงส์ห้ามไว้เพราะต้องยังเด็ก ฟ้องร้องจนเป็นเรื่องอื้อฉาวจะไม่ดีกับเธอ

“อย่าห่วงเลยค่ะคุณประพงส์ ผัวฉันน่ะ ขึ้นหน้าหนึ่งจนอยู่ตัวแล้ว”

วีกิจไกล่เกลี่ย บอกว่าเรื่องแบบนี้มีแต่ฝ่ายหญิงที่เสีย เจนภพมองหน้าหลานตาขวางที่ไม่เข้าข้าง

“ผมรู้ว่าอาภพรู้สึกยังไงฮะ หัวอกของพ่อที่ลูกสาวเกือบเสียผู้เสียคน”

วีกิจพูดเสียงเรียบ เจนภพสะอึก ดูไม่ออกว่าหลานประชดหรือพูดจากใจจริง เสเดินไปเยี่ยมต้องที่ห้อง วีกิจตามไปด้วย เจนภพมองสภาพลูกสาวอย่างเวทนา

“โธ่...ยายต้อง ไปคบกับไอ้พวกกุ๊ยมานานเท่าไหร่แล้ว รู้ไหม...นายกิจ”

“มันเป็นหน้าที่ของพ่อไม่ใช่เหรอครับที่ต้องรู้ อ้อ...ผมลืมไปว่าอามีเรื่องของมุตตาที่สำคัญกว่า”

“ถ้าไม่อยากคุยด้วยดีๆ นายกลับไปเลยดีกว่า”

“กำลัง จะกลับอยู่ครับ แต่จะบอกอาภพให้รู้อีกเรื่อง ยายต้องไม่ใช่แค่รักษาเรื่องกระดูกข้อเท้า แต่ต้องรักษาอาการติดยาด้วย...นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่พ่อควรรู้ใช่ไหมครับ”

วีกิจเดินออกไปแล้ว เจนภพยืนอึ้ง มองลูกสาวอย่างสังเวชใจ

ooooooo

ต้อง ออกจากโรงพยาบาลหลายวันต่อมา เจนภพถามอาการอย่างห่วงใย นพนภามองด้วยความหมั่นไส้ แขวะทั้งลูกและผัว เจนภพเหลืออดที่เมียพูดจาไม่ดีใส่ลูก ปรามเสียงเขียว แต่นพนภาหาได้สะทกสะท้าน ยอกย้อนทันควัน

“ฉันจะพูด ฉันเป็นแม่ ทำไมจะอบรมลูกไม่ได้ เชอะ! ทำเป็นห่วงลูก ถ้ามันไม่โดนเรียงคิวจะกลับมาดูมันไหม คงกกกับนังมุตตามากกว่า!”

“แม่อยากให้หนูโดนข่มขืนมากนักเหรอคะ ทำไมแม่ถึงเกลียดหนูนักหนา”

“ฉันไปเกลียดอะไรแก ถ้าแกทำตัวดี ฉันจะว่าอะไรได้ แม่ทุกคนน่ะรักลูกทั้งนั้น”

“นั่นมันเรื่องน้ำเน่าค่ะ ข่าวมีอยู่ทุกวัน แม่หักคอลูก แม่เอาลูกไปขาย แม่ให้พ่อเลี้ยงเข้าหาลูกเพราะกลัวผัวทิ้ง”

นพนภาหน้าเจื่อน เริ่มรู้สึกผิดแต่ยังฟอร์มจัดเชิดหน้า เจนภพปรามลูกเสียงอ่อน ต้องน้ำตาคลอ

“หนู ไม่หยุด...ตั้งแต่เกิดมาแม่ไม่เคยรักหนู หรือเพราะหนูเกิดทำให้ชีวิตแม่พัง พ่อเห่อหนู รักหนูมาก แม่ทนไม่ได้ที่หนูแย่งความรักจากพ่อ แม่ไม่ได้หึงแค่เมียน้อย...แต่หึงแม้กระทั่งลูก!”

เจนภพมองเมียอย่างไม่เชื่อ นพนภาอ้าปากค้าง กรีดร้อง อับอายที่จะยอมรับ ถลาไปตบตีต้องอย่างบ้าคลั่ง เจนภพเข้าขวาง ผลักเมียล้มกองกับพื้น นพนภาโกรธจัด ตะโกนด่าลูกสาวเสียงสั่น สั่งให้ออกจากโรงเรียนและกักบริเวณเพื่อควบคุมความประพฤติ ต้องกอดพ่อร้องไห้ ด้วยความคับแค้นใจ

นพนภาอารมณ์เสียเรื่องต้องจึงไประบายกับประพงส์ เขาปลอบให้เย็นลง บอกว่าหมอทิพย์เนตรเช็กดวงต้องแล้วว่าเป็นดาวโจร ควรทำงานกลางคืนเพื่อแก้ เคล็ด มาเฟียหนุ่มพยายามเกลี่ยกล่อมให้พาต้องมาทำงานที่เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ด้วย นพนภาลังเลเพราะลูกยังเด็ก แต่ก็เอนไปทางมาเฟียหนุ่มไม่น้อย

เวลาเดียวกันนั้น สร้อยคำมาเยี่ยมต้องที่ยังเซ็งเรื่องแม่ พยายามปลอบหลานให้หายเศร้าและเลิกโกรธแค้นแม่ ต้องน้อยใจ ค่อนแคะแม่ว่าลำเอียงรักแต่น้อง

“ไม่เอาน่า...อย่าคิดร้ายอย่างนั้น คิดดีนะลูก คิดดีชีวิตก็สุข คิดร้ายก็มีแต่ทุกข์”

ต้องน้ำตาไหลพรากอย่างอัดอั้น สร้อยคำกอดปลอบ สอนหลานเสียงอ่อน

“ฟังป้านะลูก พระท่านว่าชีวิตเรามีแต่ทุกข์ แต่ถ้าเรา รู้จักทุกข์ รู้จักจัดการกับมัน ก็จะทุกข์น้อยลง และถ้าเก่งจริงๆ ก็จะถึงขั้นไม่ทุกข์เลย...หนูเชื่อเรื่องกฎแห่งกรรมไหมลูก”

“เรื่องชาตินี้ชาติหน้า เรื่องบาปบุญน่ะหรือคะ หนูไม่รู้หรอกค่ะ”

“ดีลูก...งั้นฟังหูไว้หู กรรมทุกอย่างที่เราทำมันมีผลตามมาทั้งนั้น ถ้าทำดีผลมันก็ดี ถ้าทำชั่วผลมันก็แย่”

ต้องยิ้มเยาะ นึกถึงตนเองที่ชอบประชดพ่อเถียงแม่เป็นกิจวัตร
“พ่อกับแม่ก็แค่คนธรรมดา ไม่ใช่พระพรหมอย่างที่เขาพูดกัน พ่อแม่ทำผิดได้ หนูก็ทำผิดได้ ป้าก็ไม่ใช่คุณป้ากายสิทธิ์แสนดีนักหรอกลูก...กฎข้อแรกที่ทำให้เราทุกข์น้อยลงก็คือ กรรมอะไรที่มันก่อทุกข์ก็อย่าไปทำมัน”

“พูดง่ายแต่ทำยากค่ะ”

ต้องพูดเสียงเรียบ หน้ายังเศร้าแต่สบายใจขึ้นนิดหน่อย สร้อยคำมองหลานอย่างเห็นใจ

วันเดียวกันนั้น เจนภพไปทำงานด้วยรถบุโรทั่งคันเก่าที่ใช้จ่ายตลาด ผู้คนในกระทรวงเห็นเข้า ต่างหันหน้าซุบซิบกันอย่างสนุกสนาน เจนภพเข้าตึกด้วยความอับอาย ใบหน้าร้อนผ่าว เจอกับรัชนกในลิฟต์ สายลับสองหน้าชวนคุยเสียงหวาน ท่าทางไร้เดียงสาแต่แววตายั่วยวน เจนภพยิ้ม ภูมิใจในเสน่ห์ของตน...

ประสิทธิ์ชัยไปที่คอนโดฯรัชนกหลังเลิกงานวันนั้น รัชนกแสร้งทำกระเง้ากระงอดแฟนหนุ่มเรื่องหมั้นหมายกับผู้หญิงอื่นที่แม่เขาหาให้ ประสิทธิ์ชัยตาเหลือก เฉไฉบอกว่าไม่จริง รัชนกแกล้งบีบน้ำตา ตีหน้าเศร้า บอกว่ากลัวเขาทิ้ง

ชายหนุ่มตามไม่ทัน รับปากขันแข็งว่ารักเธอคนเดียว ทั้งสองสบตากัน ไฟสวาทโหมกระหน่ำ ประสิทธิ์ชัยหลงอยู่ในห้วงรักจนไม่รู้ว่าภาพของตนกับแฟนสาวถูกศักดิ์ชายบันทึกไว้

ooooooo

นพนภาไปช็อปปิ้งกับเนตรนภิศที่ห้างหรู เนตร-นภิศแยกไปลองเสื้อ นพนภาเดินเตร่ เห็นมุนินทร์กับลูกศรยืนเลือกเสื้อผ้าในร้านเดียวกัน ถลาไปหาเรื่อง กระแนะกระแหน ลูกศรหน้าซีด มุนินทร์ไม่สะดุ้งสะเทือน แสยะยิ้มหวาน

“สวัสดีค่ะคุณเมียหลวงหน้าโบท็อกซ์ รู้สึกว่ารสนิยมเราตรงกันหลายเรื่องนะคะ แต่ชุดร้านนี้ฉันว่าเหมาะกับหญิงสาวผอมเพรียวมากกว่าหญิงแก่สเตย์แตกนะคะ”

“อะไรที่เป็นของฉัน แกไม่มีวันแย่งไปได้”

“ก็เห็นแย่งคืนได้แต่ของชำรุด มีตำหนิเท่านั้นเอง”

นพนภาตาวาว กระชากชุดในมือหญิงสาวจนขาด พนักงานแตกตื่น เนตรนภิศรีบมาดู มุนินทร์ยิ้มเยาะ

“ได้ข่าวว่าจะเปิดผับชื่อเดอะซองเหรอคะ แต่แหม ...ทำไมใครๆ ถึงเรียกเดอะซ่องล่ะคะ ดีจังนะคะ เปิดหน้าสถานศึกษา ขานรับนโยบายเซ็กซ์ในวัยเรียนหรือไงคะ”

“แกอย่ามาป้ายขี้ ฉันแค่เปิดร้าน ใครทำระยำตำบอนก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”

“คุณกับสามีนี่เหมือนกันนะคะ คิดถึงแต่ตัวเอง ใครจะพินาศยังไงก็ไม่สน...มิน่าถึงอยู่กันยืด”

นพนภาเดือด ด่าทอหญิงสาวเสียๆ หายๆ มุนินทร์ยิ้มรับ ยั่วกลับว่าเจนภพหลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น นพนภากรีดร้องโหยหวน กลัวจะเป็นจริง น้ำตาไหลแต่ยังเชิดหน้า ถลันไปตบหญิงสาว เนตรนภิศห้ามพี่สาวเสียงหลง

“อย่าค่ะพี่นภา ไม่คุ้มกัน อีนี่มันเหล็กไหล”

“ค่ะ...ฉันมันเหล็กไหล ถึงไม่ต้องไปดึงไปทึ้งไงคะ เฮ้อ...ให้ดึงจนตึงเปรี๊ยะ บทผัวจะทิ้งมันก็ทิ้งนะคะ ถ้าต้องหาใหม่ตอนกลางคนนี่คงต้องลดแลกแจกแถมกันเหนื่อยแย่ ดีไม่ดี มันขอรับแต่ของแถม ไม่เอาตัวล่ะยุ่งเลย!”

นพนภาร้องกรี๊ด เงื้อมือจะตบหญิงสาวอีก มุนินทร์ล้วงมือลงกระเป๋า ตวัดขึ้นทำท่าเหมือนจ่อปืน ขู่นพนภาว่าถ้าทำร้ายเธออาจมีปืนลั่น นพนภาชะงักแต่ทำไม่กลัว

“มันก็ต้องมีคนเจ็บตัวสิ คราวก่อนแกรอดไปได้เพราะฉันกำชับไว้ว่าอย่าให้ถึงตาย แต่คราวนี้ฉันจะให้มันข่มขืน กรีดหน้าแกให้ยับ เอาให้ไม่ตายก็ต้องนอนเป็นอัมพาตไปตลอดชีวิต”

“อย่างนี้ก็เจอข้อหาจ้างวานฆ่าน่ะสิคะ”

“ใช่...ขอให้แกตายเถอะ ฉันยอมได้ทุกอย่าง”

“งั้นก็ช่วยยืนยันกับกล้องวงจรปิดตรงนั้นอีกครั้งสิคะ”

มุนินทร์ชี้นิ้วไปที่กล้องบนเพดาน หันไปบอกพนักงานในร้านให้ช่วยเป็นพยานบุคคลให้ด้วย

“ทั้งพยานบุคคลและวัตถุขนาดนี้ คงดิ้นหลุดยากนะคะ ถ้าฉันเป็นอะไรไป เลิกเล่นสกปรกซะทีเถอะค่ะ... ลาก่อนนะคะ ถ้ามีอะไรฉันจะติดต่อไป หรือไม่ก็...ฝากบอกสามีเราไปก็ได้มั้งคะ”

มุนินทร์เดินเฉิดฉายออกไปพร้อมลูกศร เนตรนภิศตะลึงไม่หาย หันมาเปรยกับพี่สาวว่าไม่น่าเสียรู้เมียน้อย ทันใดนั้น...นพนภาหันมาตบหน้าน้องสาวอย่างแรง กุม หน้าอกมือสั่นและทรุดฮวบลงไป เนตรนภิศยืนกุมแก้ม มองพี่สาวที่เป็นลมหมดสติด้วยแววตาเคียดแค้น ความคิดบางอย่างแล่นวาบขึ้นมา

มุนินทร์เปลี่ยนท่าทีเป็นสมเพชตัวเองทันทีที่ลับร่างนพนภา ลูกศรคว้ากระเป๋าเพื่อนมาเปิด ไม่เจอปืนอย่างที่คาด ถามถึงนพนภาว่าคือเมียหลวงของเจนภพที่เพื่อนไปติดพันใช่ไหม มุนินทร์ไม่ปฏิเสธ ลูกศรมองเพื่อนอย่างเป็นห่วง บอกให้ถอนตัว มุนินทร์ไม่ยอม บอกว่ายังมีเรื่องต้องชำระความแค้นกันอีกนาน!

เนตรนภิศแบกหน้าแดงเป็นแถบกลับบ้าน อมร ดูบอลกับพงศกร ส่งเสียงเชียร์อย่างสนุกสนาน เนตรนภิศมองด้วยความเอ็นดู สองหนุ่มมาหาเธอที่โต๊ะอาหาร พงศกรชื่นชมเนตรนภิศที่ทำหน้าที่ภรรยาได้ดีไม่มีที่ติ เนตรนภิศยิ้มเขิน ถามกลับว่าไม่คิดมีเมียบ้างหรือ พงศกรลอบมองอมร ยิ้มกรุ้มกริ่ม

“ผมก็อยากมีเป็นตัวเป็นตนเหมือนกันล่ะครับ แต่อีกฝ่ายเขาไม่ยอมบอกทางบ้าน ถ้าบอกเขาตายแน่”

เนตรนภิศไม่รู้เรื่อง เข้าใจว่าเป็นเรื่องความแตกต่างทางศาสนา เห็นอกเห็นใจพงศกรจากใจจริง อมรมองเพื่อนกล้ามโตปรามๆ และชวนคุยเปลี่ยนเรื่อง ถามเมียเรื่องรอยแดงที่หน้า เนตรนภิศหน้าบูดเล่าว่าพี่สาวมีเรื่องวิวาทกับเมียน้อยในห้าง พาลมาตบตนจนตัวเองเป็นลมหมดสติไป

“แปลว่าเวลาพี่สาวคุณนภิศโกรธมากๆ จะช็อกสลบเหรอครับ”

“ไม่ใช่ครั้งแรกนะคะคุณพงศ์ หลายครั้งแล้ว”

“ไม่ดีเลยนะฮะ อย่างนี้ไม่หัวใจก็ความดัน มีสิทธิ์ไปได้ง่ายๆ”

“ถูกเผงเลยค่ะ เฮ้อ...ยิ่งรบรากับเมียน้อยแบบนี้ แหม...มันน่าซื้อประกันให้พี่นภาจังเลย”

เนตรนภิศหลุดปากสิ่งที่คิด อมรมองเมีย สังหรณ์ใจบางอย่าง

“ทำไมคุณพูดเหมือนอยากให้พี่สาวคุณเป็นอะไรไป”

“พูดอะไรแบบนั้นคุณอมร ฉันรักพี่สาว แต่พี่นภาน่ะห่วงตัวเองที่ไหน วิ่งไล่หวงผัว จะพาไปหาหมอก็ไม่ยอม”

เนตรนภิศเฉไฉ ทำทีห่วงใยพี่สาว อมรสงสัยเมียแต่ตัดสินใจไม่พูดอะไร

ooooooo

มุนินทร์คลิกดูคลิปฉาวของเจนภพกับนพนภาอย่างสะใจระคนสมเพชตนเอง ไม่ได้ภูมิใจสิ่งที่ตนก่อแต่ ต้องทำเพื่อทวงความเป็นธรรมให้แฝดน้อง หญิงสาวคลิกเปลี่ยนไปดูอย่างอื่น เห็นข่าวณัฐดนัย เจ้านายหนุ่มไฟแรงออกงาน และข่าวนพนภาให้สัมภาษณ์เรื่องผับเดอะซอง สาวใหญ่หน้าหงิกเพราะโดนถามเรื่องสถานที่ตั้งผับ

“ไม่จริงค่ะ เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ของเราอยู่ห่างจากโรงเรียนห้าร้อยเมตรตามกฎหมายพอดีค่ะ อ๋อ...จากวัดมองเห็นสระน้ำของเราเหรอคะ แหม...พระท่านคงไม่ใช้กล้องส่องทางไกลหรอกค่ะ”

นพนภายิ้มระรื่น ไร้วี่แววรู้สึกผิด มุนินทร์แสยะยิ้ม แววตาแข็งกร้าว
“เพื่อเด็ก เยาวชน และเพื่อศีลธรรมอันดี งานนี้ฉันจัดให้เธออีกแน่ๆ”
มุนินทร์เริ่มแผนการฉีกหน้านพนภาไม่กี่วันถัดมา หญิงสาวนัดเจอเจนภพที่โชว์รูมรถหรู เจนภพตื่นเต้น แต่งหล่อไปเจอสาวแต่สตาร์ตรถบุโรทั่งไม่ติด วีกิจอาสาช่วยเข็น เจนภพเย้ยหลาน พูดอวดว่าจะไปเจอมุตตา วีกิจอึ้ง เจนภพสะใจได้ตอกกลับหลานบ้าง
เจนภพมองหาหญิงสาวที่โชว์รูม มุนินทร์แอบย่องจากข้างหลัง แกล้งโอบกอดหนุ่มใหญ่อย่างรักใคร่ เจนภพหน้าเครียด ยังไม่ชินท่าทางประเจิดประเจ้อของมุตตาคนใหม่ แต่พอเห็นสายตายั่วยวนและชุดเซ็กซี่ก็แววตาอ่อนลง ต่อว่าเรื่องคลิปไม่จริงจังนัก หนุ่มใหญ่มั่นใจมากว่าเป็นฝีมือของเธอ

“ฉันยอมรับว่าถ่ายคลิปไว้เอง จ้างคนดูแลที่นั่นถ่ายให้ แต่แค่ถ่ายนะคะ ไม่ได้คิดจะเอาไปเผยแพร่ที่ไหน เมียคุณนั่นแหละเป็นต้นเหตุ จ่ายค่าเสียหายไม่ตรงกับที่ตกลงไว้กับโรงแรม ทางโรงแรมก็เลยแฉคลิปอย่างที่เห็น”

“ผมจะเชื่อคุณได้ไหมเนี่ย แล้วทำไมต้องโทร.ไปตามนภามาที่โรงแรมด้วย”

“เขาต้องรับรู้เรื่องของเรา เพื่อยืนยันว่าความสัมพันธ์ของเราจริงจังแค่ไหน จะได้เซ็นใบหย่าให้คุณเสียที บอกแล้วไงคะ...ว่าฉันต้องการให้คุณเป็นอิสระ ฉันไม่ต้องการแบ่งคุณให้กับใคร”

“นี่คุณรักผมจริงๆ ใช่ไหม”

“ตารักคุณค่ะ รักจนโงหัวไม่ขึ้นเชียวค่ะ”

มุนินทร์ดึงเจนภพเข้ามุมลับตา โอบรอบคอ มองด้วยสายตาเชิญชวน เจนภพร้อนรุ่ม ชวนหญิงสาวไปหา ความสุขที่อื่น มุนินทร์ยิ้มหวานหยด ลากหนุ่มใหญ่ไปยังรถที่จอดโชว์ เจนภพเดินตามงงๆ...ลับหลังทั้งสอง ลูกศรโผล่จากมุมหนึ่ง ในมือถือกล้องวีดิโอค่อยๆตามถ่ายอย่างไม่ขาดระยะ

มุนินทร์แกล้งฉอเลาะเจนภพจะซื้อรถใหม่ให้ หนุ่มใหญ่คิดว่าหญิงสาวพูดเล่นเพื่อเอาใจ มุนินทร์ยิ้มประจบ บอกว่าซื้อให้ได้จริงๆ เพราะมีสปอนเซอร์ดี เจนภพหน้าเครียด เริ่มหึงแต่ยังรักษาอาการ

“แต่ตาก็รักผมคนเดียวใช่ไหม”

“ค่ะ...เท่าที่รู้ ตารักคุณคนเดียว รักอย่างทุ่มเทให้ทั้งหมดด้วย”

เจนภพมองหญิงสาวอย่างหลงใหล มุนินทร์ยิ้มหวานสมใจ เสียงมือถือดังขึ้น หญิงสาวกดรับเสียงใส บอกให้เจ้านายหนุ่มเดินมาหาในโชว์รูม เจนภพนิ่วหน้า รั้งเธอไว้ถามว่าใคร

“สปอนเซอร์ที่ฉันบอกไงคะ เป็นเสี่ยใหญ่ใจดีชอบทำทานกับเด็กสาว ให้ทุนอาหารกลางคืนนักเรียนหญิง”

“ตายอมรับแล้วใช่ไหมว่าคบสองคนพร้อมกัน หรือว่าสาม...ถ้านับนายกิจด้วย”

“สามอะไรกันคะ ฉันบอกแล้วไงว่าฉันอยากจะคบให้ถึงเจ็ด อ้อ...เขามาแล้วค่ะ ขอตัวก่อนะคะ ผอ.”

“จะไม่แนะนำให้ผมรู้จักเหรอ”

“อย่าดีกว่าค่ะ เพราะเขาไม่ชอบเห็นฉันมั่วกับชู้รักคนอื่น ขี้หึงมากๆ เลยค่ะ”

ณัฐดนัยเดินมาหา มุนินทร์เข้าไปโอบไหล่อย่างสนิทสนม เจนภพมองตาม ขบกรามแน่นด้วยแรงหึง หญิงสาวแกล้งหัวเราะเสียงใส แอบหันมองหนุ่มใหญ่ด้วยความสะใจ เจนภพโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ ยกมือถือตัวเองถ่ายรูปสปอนเซอร์หนุ่มของหญิงสาวไว้หาข้อมูล

ooooooo

มุนินทร์อยู่ที่ห้องทำงาน ดูคลิปตัวเองนัวเนียกับเจนภพในโชว์รูมรถหรูอย่างพอใจ ลูกศรปะติดปะต่อเรื่องราวของมุนินทร์กับเจนภพ เดาว่าเพื่อนจะใช้คลิปฝีมือตนเป็นเครื่องมือประจานนพนภา เหมือนกับที่เคยทำจนสองผัวเมียกลายเป็นข่าวหน้าหนึ่งเมื่อหลายวันก่อน พฤติกรรมแปลกๆของเพื่อนช่วงหลัง นี่ชวนให้เธอสงสัย

“ยายนิน...บอกความจริงมาสักที เธอแอบไปทำอะไรที่กระทรวงนั่นมาตั้งเกือบอาทิตย์”

“อยากรู้ใช่ไหม งั้นช่วยฉันทำงานอีกอย่างสิ”

มุนินทร์ให้ลูกศรติดต่อรุ่นน้องที่รับงานพิเศษ วางระบบคอมพิวเตอร์ให้เอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ของนพนภา ลูกศรรับปากช่วยแลกกับรายละเอียดแผนการล้างแค้นนพนภา มุนินทร์ไม่ยอมบอกและออกจากห้องไปลูกศรวิ่งตามแต่ไม่ทัน ตะโกนขู่เพื่อนไล่หลังขำๆ

“ยายนิน...ถ้าเธอไม่ยอมบอกความจริงนะ ฉันจะฟ้องบอสเรื่องที่เธอหลอกควงเขาต่อหน้านาย ผอ.”

ณัฐดนัยผ่านมาได้ยินเต็มสองหู ลูกศรยิ้มหน้าเจื่อนๆ บอกว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด แกล้งส่งตาหวานจีบชายหนุ่ม บอกว่าเธอแค่อิจฉามุนินทร์ที่ได้ไปทานข้าวกับเขาสองต่อสอง ณัฐดนัยยิ้มเขิน ลืมเรื่องที่สงสัยหมด...

วันถัดมา...เจนภพให้วีกิจดูภาพสปอนเซอร์คนใหม่ของมุตตาที่ตนแอบถ่ายไว้ วีกิจมองภาพหญิงสาวสนิทสนมกับผู้ชายที่เขาจำได้ว่าคือณัฐดนัยเจ้านายหนุ่มคนใหม่ด้วยความสะเทือนใจแต่ยังทำเฉย ไม่อยากให้อาเห็นความหวั่นไหวแต่ก็หลอกเจนภพที่เจนจัดเรื่องแบบนี้ไม่ได้

“ตาบอกฉันว่าเป็นอาเสี่ย ฉันก็คิดว่าเป็นเสี่ยเขียงหมู แต่นี่ยังหนุ่มเหมือนเด็กกว่าฉันหลายปี”

“แปลว่าตาก็ไม่ได้ชอบแต่คนแก่...แต่อาภพแน่ใจเหรอฮะ ท่าทางสนิทจริง แต่ไม่ได้ดูว่ามีอะไรกัน”

เจนภพยิ้มเยาะ ปักใจเชื่อว่าหญิงสาวมีคนอื่นเลี้ยงดู เพราะร่ำรวยและมีของใช้ดีๆมากมายจนผิดสังเกต วีกิจแย้งว่าทางบ้านหญิงสาวมีฐานะดีพอสมควร เรื่องใช้เงินฟุ่มเฟือยไม่น่าเป็นปัญหา เจนภพไม่เชื่อ

“ก็แค่ไร่ดอกไม้ แต่ขับรถสปอร์ตคันละหลายล้าน เป็นไปไม่ได้ ไหนว่าเขาไม่มีความลับกับแกไงนายกิจ”

“ถ้าตาเห็นว่าสำคัญ คงบอกผมเอง แต่ที่ไม่บอกเพราะไม่สำคัญ อีกอย่างเรื่องบางเรื่อง ผมก็ไม่อยากรู้ด้วย”

“แกก็โดนหลอกตลอดชาติล่ะวะ เขาจงใจให้ฉันเจอไอ้เสี่ยนั่น คงหวังให้ฉันหึง แต่ยากว่ะ...ฉันรอบจัดกว่านั้น”

“นี่ขนาดอาภพไม่หึงนะฮะ”

“ไม่ว่ายังไง ตาก็เป็นของตายสำหรับฉัน”

“ของตาย...หรือว่าของที่ทำให้ถึงตายกันแน่ฮะ”

“จริงๆ ฉันไม่หึงหรอก แต่แกนี่สิ อาจจะหึงจนทนไม่ไหวก็ได้”

“อย่าดึงผมลงไปเกี่ยวกับเกมพิศวาสของอาภพกับตาเลยฮะ...ผมขอตัวก่อน”

ลับร่างวีกิจ เจนภพเปลี่ยนท่าทีทันที คว้ามือถือมาดูอีกรอบอย่างหงุดหงิดเพราะพิษแรงหึง!

ภาพมุตตาคลอเคลียกับชายอื่นทำเอาวีกิจไม่เป็นอันทำงาน เขาโทร.นัดหญิงสาวมาเจอที่ร้านอาหารริมน้ำหลังเลิกงาน ปริมเงี่ยหูฟัง หมั่นไส้ท่าทางของชายหนุ่ม อดกระแนะกระแหนไม่ได้

“นางคงเป็นผู้ว่าการรถไฟรางคู่ เดี๋ยวขบวนอา เดี๋ยวขบวนหลาน ผลัดกันมุดอุโมงค์ใต้ดิน ฉึกฉึก เอ้ย... ฉึกฉัก”

“คนที่พูดอะไรสองแง่สองง่าม มีนัยทางเซ็กซ์ได้ทุกคำ แปลว่าถ้าไม่ฝักใฝ่อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก ก็คงขาดแคลนจนเก็บกดหมดทางระบายใช่ไหมฮะ”

วีกิจตอกกลับเสียงเครียด ปริมหน้าม้าน ผู้คนในแผนกส่งเสียงซุบซิบกันสนุกสนาน...

มุนินทร์ไปเจอวีกิจตามนัดหลังเลิกงาน ดีใจที่เจอเขาเพราะแอบคิดถึงอยู่เหมือนกัน วีกิจโชว์คลิปฉาวของอาทั้งสองให้ดู มั่นใจมากว่าเป็นฝีมือเธอ

“ตาไม่มีความสามารถขนาดนี้หรอกค่ะ”

“แต่ผมแน่ใจว่าฝีมือคุณ คุณตั้งใจทำลายอาภพกับอานภาให้บ้านแตก อาภพจะได้เป็นของคุณคนเดียวงั้นหรือ”

“ฉันแค่จะแสดงว่า ผู้ชายก็ถูกหลอกเข้าม่านรูดได้ เขาทำกับตาไว้ยังไง ก็ควรจะได้แบบนั้นหรือมากกว่า!”

“แต่ผมไม่คิดว่าคุณจะทำได้ขนาด...เซ็กซ์วิตถาร”

วีกิจเสียงเคร่ง แววตาเหยียดหยาม มุนินทร์หน้าเสียแต่ยังเชิดหน้า ตอกกลับไม่สะทกสะท้าน

“เซ็กซ์คืออาวุธต่างหากค่ะ ถ้าใช้อาวุธครบเครื่อง สงครามคราวนี้ฉันชนะแน่”

“ฮะ...เพราะเรื่องนี้อานภาคงแพ้คุณหลุดลุ่ย ตอนนี้บ้านแทบแตก และคนที่ต้องมารับเคราะห์คือยายต้อง เพราะถูกอานภาอาละวาด หนีออกจากบ้านจนเกือบโดนรุมข่มขืน”

มุนินทร์หน้าถอดสี รู้สึกผิดกับเด็กสาวจริงๆ แต่วีกิจเข้าใจว่าเสแสร้ง ต่อว่าหญิงสาวด้วยแววตาเจ็บปวด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น